You are currently viewing การเดินทางของเมล็ดกาเเฟ
การเดินทางของเมล็ดกาเเฟ

การเดินทางของเมล็ดกาเเฟ

ประวัติศาสตร์ด้านกาเเฟนั้นก็มีเรื่องราวยาวนาน..เพราะกว่าจะเป็นกาเเฟที่เราได้ดื่มก่อนการทำงานเราทุกเช้าเเล้ว เรื่องราวเเต่ละที่มานั้นยังสนุกน่าติดตาม

เพราะมีทั้งความเชื้อเเต่ละเเหล่งกำเนิด จากถิ่นต่างๆ มากมายหลายประเทศทั่วโลก จึงมีเรื่องราวที่เเตกต่างกันอย่างน่าสนใจ โรงกาเเฟเเต่ละเเห่งก็มีการเเปรรูปกาเเฟที่เเตกต่าง ต่างวิธีกันออกไป กว่าจะมาถึงเรื่องการใช้เครื่องมือเครื่องจักรสำหรับโรงกาเเฟที่สะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้นั้น เราเคยต้องใช้กำลังคนในการคัดเมล็ดกาเเฟมาก่อน กาเเฟจำนวนมหาศาลถูกคัดเเยกเมล็ดดีเเละเสียด้วยเเรงงานมนุษย์ โดยใช้เวลามากกว่าใช้เครื่องจักร กำลังการผลิตก็ต่ำลงกว่าโรงกาเเฟที่เริ่มมีการนำเครื่องจักรทันสมัยเข้ามาใช้งาน

สำหรับในบ้านเรานั้นกาเเฟเป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนหลงเสน่ห์ มีความเป็นมาอย่างไร ลองไปติดตามกันค่ะ

เดิมทีกาแฟถูกค้นพบประมาณ ค.ศ. 850 ปีก่อนคริสศักราช ชาวแอฟริกาพื้นเมืองใช้กาแฟเป็นอาหารมานานแล้วสันนิฐานว่ามนุษย์สมัยโบราณ อาจเรียนรู้จากการสังเกตสัตว์ว่ากินอะไรและทดลองกินพบว่า ผลกาแฟสุกมีรสหวานเป็นที่ชื่นชอบของนก และสัตว์ต่างๆ

ในช่วงแรกๆ รับประทานผลสุก ต่อมานำผลสุกมาทำไวน์ เรียกว่า ควาฮ์วาฮ์ (qahwah) เมื่อลองเคี้ยวเมล็ดกาแฟจะเกิดมีความรู้สึกว่าสบายหายเหน็ดเหนื่อยจากอากาศร้อนหรือการเดินทางไกล เพราะกาแฟมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นร่างกายทำให้กาแฟได้เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ต่อมามีการพัฒนานำเมล็ดกาแฟมาป่นผสมไขมันสัตว์ปั้นเป็นก้อนไว้กินเป็นอาหารติดตัวในการเดินทางชาวพื้นเมืองบางเผ่าในแอฟริกา ใช้กาแฟเซ่นไหว้พระเจ้า และผีสางที่นับถือ

article3

ในพิธีฉลองสาบานพี่น้องร่วมสายโลหิต มีการแกะเมล็ดกาแฟจากผลกาแฟสองเมล็ดแบ่งให้พี่น้องคนละหนึ่งเมล็ดเพื่อนำไปจุ่มหรือทาด้วยโลหิตของตนและมอบให้พี่น้องแต่ละคนไปเคี้ยวรับประทาน กาแฟเป็นของขวัญที่มอบให้แก่แขกที่มาเยี่ยมเคี้ยวก่อนที่จะเลี้ยงอาหารเป็นต้น

ต่อมากาแฟจึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มในระยะแรกใช้เมล็ดกาแฟใส่ในน้ำต้มบนกองไฟ จนน้ำกาแฟออกเป็นสีเหลืองกาแฟได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีการตากเมล็ดกาแฟเพื่อให้เก็บไว้ได้นานขึ้น มีการคั่วบด แช่ ต้ม กาแฟ โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ครกบด กระทะ เครื่องต้ม กาแฟ ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น

ประเทศไทย ตั้งอยู่แถบภูมิภาคเอเชีย … ใกล้ถิ่นปลูกกาแฟ แต่ในที่สุด ประเทศไทย ก็เริ่มได้รับเอาวัฒนธรรมและเมล็ดกาแฟด้วยองค์กษัตริย์ ไทยได้ริเริ่ม และส่งเสริม อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ประเทศไทย ของ กาแฟ …

 

article3-2

2367 สมัยรัชกาลที่ 3 เริ่มติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศ เช่น อังกฤษเนเธอร์แลนด์ จีงได้มีการนำกาแฟมาทดลองปลูกในพระบรมมหาราชวัง และแจกจ่ายให้เสนาบดีไปปลูกกัน ทั้งยังปรากฏชื่อ เรียกว่า “ข้าวแฝ่” ในหนังสือสัพะ พะจะจะ พาสาโท (2397) โดยบาทหลวงปาลเลอกัวซ์

2416 ปรากฏชื่อ กาแฟ ในหนังสือ อักขราภิธานสรับท์ ของหมอบรัดเลย์ ว่า กาแฟ่ ต้นไม้มีอย่างหนึ่ง มาแต่เมืองนอกเม็ดมันต้มน้ำร้อนกิน คล้ายใบชา

2447 นายดีหมุน ชาวมุสลิมจากสงขลา เดินทางไปทำพิธีฮัจญ์ที่เมืองมักกะฮ์ ชาอุดิอาระเบีย ขากลับได้นำเมล็ดพันธ์กาแฟโรบัสต้ามาปลูกที่ ต. บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย เชื่อกันว่าเป็นต้นแม่พันธ์ของกาแฟโรบัสต้าในภาคใต้ของประเทศไทย

2454 ตามบันทึกของพระสารสาสน์พลขันธ์ (ยี อี เยรินี) ชาวอิตาลี กล่าวว่า ประเทศไทย มีการปลูกกาแฟตั้งแต่ พ.ศ. 2397 เป็นอาราบิก้า สายพันธ์เบอร์บอน ปลูกที่ จ.จันทบุรี เรียกกันว่า กาแฟจันทรบูร

2460 ระหว่างสงครามโลก (ครั้งที่ 1) มิสโคลส์ ชาวอเมริกัน เปิดร้าน Red Cross Tea Room ขายชาและกาแฟบริเวณสี่กั๊กประยาศรีเปิดเฉพาะ วันพฤหัสบดี เวลา 15:00 – 18:00 น. หน้าร้านปักธงกาชาดเป็นเครื่องหมายสำคัญ มีเค้ก มัฟฟิน ขนมปังทาเนย-แยมและไอสกรีม ครูและนักเรียนโรงเรียนกุลสตรีวังหลัง ผลัดกันมาขาย ส่วนมิสโคลดูแลควบคุมและรับแขก ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศพากันมาอุดหนุนขายอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ได้กำไรถึง 1,200 บาท ส่งไปบำรุงกาชาดสัมพันธมิตร ซึ่งกำลังปฏิบัติการอยู่ในเขตสงคราม

2481 บริษัทเนสท์เล่ สวิตเซอร์แลนด์ คิดค้น วิธีทำกาแฟสำเร็จรูปแบบ ฟรีซดราย (Freeze-dried) เพื่อช่วยประเทศบราซิลแก้ปัญหาผลผลิตกาแฟล้นตลาด ต่อมาจึงพัฒนาเป็นเนสกาแฟ ที่มีอิทธิพลต่อตลาดกาแฟทั่วโลก

2500 นายสมบูรณ์ ณ ถลาง อดีตผู้อำนวยการยาง กรมกสิกรรม (กรมวิชาการเกษตรในปัจจุบัน) ได้นำเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 4 สายพันธ์ คือ ทิปปิก้า เบอร์บอน คาทูร์รา และ มุนดู โนโว จากบราซิลมายังประเทศไทย โดยปลูกไว้ที่สถานีทดลองพืชสวนมูเซอ จ.ตาก สถานีทดลองพืชไร่แม่โจ้ และสถานีทดลองพืชสวนฝาง จ. เชียงใหม่

2516 โรคราสนิมระบาด ในหมู่ต้นกาแฟอารบิก้า ในหมู่ต้นกาแฟแถบ จ. ตาก เชียงใหม่ เชียงราย ลำปางและน่านทำให้เกษตรจำนวนมากเลิกปลูกกาแฟ ขณะที่กทม บริษัท เนสท์เล่ ประเทศไทย ร่วมทุนกับบริษัทกาแฟไทย จำกัดเปิดโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปที่บางนา

2517 โครงการหลวง และกรมวิชาการเกษตร ได้รับพันธ์กาแฟอาราบิก้า พันธ์ไฮบริโด เดอติมอร์ และอีกหลายสายพันธ์ที่ทนต่อโรค ราสนิม จากหลายๆ ประเทศ เช่น อินเดีย เคนย่า เอธิโอเปีย โดยเริ่มส่งเสริมให้ชาวเขาทดลองปลูกแทนฝิ่น

2526 นักวิชาการกรมวิชาการเกษตร เดินทางไปร่วมประชุมเรื่อง โรค ราสนิม ที่ โปรตุเกส และได้นำกาแฟพันธ์อาราบิก้า สายพันธ์ คาติมอร์ มาทดลองปลูกที่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ดอยตุงสถานีทดลองเกษตรที่สูง จ.เชียงรายและศูนย์พัฒนาโครการหลวงแม่หลอด จ.เชียงใหม่

2541 สตาบัคส์ เปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย ที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม

แต่กว่ากาเเฟจะเป็นที่ชื่นชอบเเละนิยมนั้นใช้เวลาไม่นานเลย เพราะตั้งเเต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเริ่มมีพระราชดิรำให้ชาวเหนือปลูกกาเเฟเเทนฝิ่นนั้น ชาวไทยภูเขาส่วนใหญ่ก็เริ่มปลูกอาราบิก้าที่ให้คุณภาพดีเยี่ยม เเละเป็นที่ต้องการบริโภคมากขึ้น โรงกาขนาดใหญ่จึงค่อยๆเติบโตเเละมีการเร่งนำเครื่องจักรโรงกาเเฟมาใช้เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต

การผลิตกาเเฟที่ได้คุณภาพนอกจากจะต้องใส่ใจในการดูเเลตั้งเเต่ต้นเชอร์รี่เเล้ว การนำเครื่องมือมาตรวจสอบคุณภาพ การคัดเมล็ดที่สมบูรณ์นั้นก็จำเป็นอย่างยิ่ง

ดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/coffeeconstruct,
http://coffeeconstruct.com

  • Post author:
  • Post category:Article